01 ลูกสาวประธานาธิบดีโดนจับ ทำไงดี ? – Resident Evil 4

5 Intro เกมที่ถูกเอาไปล้อเลียนมากที่สุด

เกมกับมีมเป็นสิ่งคู่กัน และหลากหลายเกมเหลือเกินที่ยอดนิยม และฉากเปิดเกมนั้นคือสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนประทับใจ และฉากเปิดเกมหลายเกมยังมีเอกลักษณ์ที่ตราตรึงใจอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ฉากเปิดตัวหลาย ๆ เกมนั้น ถูกนำไปล้อกลายเป็นมีมชื่อดัง ที่แม้ว่าอายุเกมจะผ่านมาเนิ่นนานแล้ว ก็ยังคงถูกล้อมาจนทุกวันนี้ เกมเหล่านั้นจะมีเกมอะไรบ้าง วันนี้เรารวบรวมมาให้ดูกัน 5 เกมดังนี้

1.ลูกสาวประธานาธิบดีโดนจับ ทำไงดี ? – Resident Evil 4

ไม่มีใครปฏิเสธว่า Resident Evil 4 เป็นหนึ่งในภาคที่แฟน ๆ Resident Evil ชื่นชอบ และยกให้เป็นภาคที่ดีที่สุด แต่ก็มาพร้อมกับ Meme ประจำภาคที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันจริง

เนื้อเรื่องของเกมภาคนี้คือลูกสาวประธานาธิบดีอย่าง Ashley โดนจับ ใช่ครับ ย้ำว่าลูกสาวประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนใหญ่คนโตขนาดนี้ คาสิโนออนไลน์ มีได้มีเสีย ถ้าเป็นชีวิตจริง น่าจะต้องรวบรวมกำลังพล เพื่อออกตามล่าหาตัวคนร้ายแล้ว แต่ดูเหมือนว่าประธานาธิบดีในโลกของ Resident Evil เขาจะใจเย็นไปสักหน่อย เพราะเขาส่งมาแค่ลีออนคนเดียวและสมุนไพรอีกไม่กี่ห่อเท่านั้น เพื่อมาสืบสาวเบาะแสการหายตัวไป หากใครเคยดูหนังอเมริกาจะพบว่า ลูกสาวประธานาธิบดีคนหนึ่งแทบจะใช้กำลังพลทั้งหมดพลิกแผ่นดินหากันเลยทีเดียว แหม.. เวรกรรมของลีออนหรือเปล่าที่มีประธานาธิบดีคิดสั้นแบบนี้.. แน่นอนว่าเพราะเหตุนี้ มันเลยกลายเป็น Meme เกลื่อนเน็ตตามภาพที่เราแนบมาด้วยนั่นเอง

2.Press F For Respect – Call of Duty: Advanced Warfare

อีกหนึ่ง Meme ที่เราเห็นกันเป็นประจำเวลาเกิดเหตุการณ์ตลกร้ายต่าง ๆ นั่นคือการ กด F เพื่อทำความเคารพ ซึ่งแฟน ๆ Call of Duty ที่เล่นภาค Advanced Warfare มา น่าจะรู้จักกับสถานการณ์ในฉากนี้ดี

ดังในนั้น Meme นี้จึงมักนำไปใช้เล่นกับมุกตลกร้ายในโลกจริง ถ้าอธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ แบบไทย ๆ ก็ประมาณว่า แอบเอาเงินค่านมลูกไปซื้อเกมเล่นแล้วโดนภรรยาจับได้ หรือขโมยเงินภรรยาไปซื้อ PS4 แล้วโดนจับได้ เมื่อเรื่องนี้ถึงหูถึงตาชาวเน็ตก็ฒักจะมีมุก Press F For Respect ให้เห็นกันอยู่เป็นประจำ

ทั้งนี้ยังมีบางคนเอาไปใช้กับเหตุการณ์ที่มีการสูญเสียจริง ๆ เช่นมีคนเสียชีวิต หรือเกิดเหตุต่าง ๆ ขึ้น แต่ถือเป็นประเด็นร้อนมาหนหนึ่ง เมื่อตอนที่ทีมงานเกม Team Fortress 2 เสียชีวิตและแฟนเกมไปแห่ กด F เพื่อแสดงความไว้อาลัย แต่ ณ ตอนนั้นทีมงานคนอื่นได้ออกมาเตือนทันทีว่า ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะผู้ตายควรได้รับเกียรติที่มากกว่านี้

ดังนั้นมุกนี้เอาไปใช้ได้ แต่อย่านำไปใช้กับกรณีที่มีการสูญเสียเกิดขึ้นจริงโดยเด็ดขาด เพราะจะถูกมองว่าไม่มีมารยาท

3.YOU DIED – ตระกูลเกม Souls ทั้งหลาย

สิ่งหนึ่งที่เจ็บปวดที่สุดในการเล่นเกม คือเราพ่ายแพ้หรือตาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในเกมตระกูลโซลทั้งหลายที่คำวา่ YOU DIED ตัวเบ้อเร่อกลางหน้าจอ ดูจะกลายเป็นอะไรที่ตราตรึงใจผู้เล่นอย่างถึงที่สุด (อย่างเช่น SEKIRO ที่มีการแปลไทยว่า อย่างเจ้าก็เป็นได้แค่ลูกหมา นี่เจ็บกว่า YOU DIED เยอะ)แน่นอนว่าเพราะคำว่า YOU DIED ตัวขนาดนั้น ไม่แปลกที่จะโดนหยิบไปทำมุกหรือ Meme อย่างอื่น เช่นเล่นเกมอื่นแพ้ ก็เอา YOU DIED ตัวนี้ไปทับแทน เพราะมันบ่งบอกถึงการตาย การพ่ายแพ้ได้ชัดเจนสุด ๆ แล้ว อย่าหัวร้อนเชียวนะเหล่าเกมเมอร์ทั้งหลาย

4.Hey, you, you’re finally awake – Skyrim

อีกหนึ่งมุกคลาสสิคจนแทบจะขึ้นหิ้ง คือมุกจากเกมชื่อดังอย่าง Skyrim โดยที่มาของมุกนี้ก็คือ ในช่วงเริ่มเกมที่เราตื่นจากความฝัน แล้วอยู่บนรถม้า NPC ชาวบ้านก็จะพูดกับเราด้วยประโยคนี้

แน่นอนว่ามุกนี้ถูกนำไปต่อยอด เอาไปเล่นกับวิดีโอเกมที่จบลงแบบปาหมอน หรือตัดจบแบบง่าย ๆ อย่างนี้ไปเลย อะไรแบบนั้น ประมาณว่า อ๋อ ทั้งหมดที่ผ่านมา มันแค่เรื่องความฝัน

และความนิยมของมุกนี้ก็ถึงขั้นมีคนเคยเอาไปสกรีนลงบนหมอน เพื่อให้เวลาเราตื่นขึ้นมา จะได้รู้สึกว่ามี NPC ชาวบ้านคนนี้มาปลุกนั่นเอง

จริง ๆ แล้วอีกมุกหนึ่งที่เคยนิยมอยู่ในบ้านเราสักพักหนึ่งจากเกมนี้ ก็คือมุก “จนกระทั่งธนูปักเข่า” ด้วยนั่นเอง

5.Ah Sh*t!, Here we go Again – GTA: San Andreas

พูดถึงมุกหรือ Meme ของเกมแล้ว จะขาดประโยคนี้จาก GTA: San Andreas ไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นประโยคที่ตัวเอกหลักของเกมอย่าง CJ ถูกถีบลงมาจากรถตำรวจตอนต้นเกมนั่นเอง

คำพูดนี้ถูกนำมาต่อยอดจนกลายเป็นมุกยอดนิยม เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เดิม ๆ แบบซ้ำไปซ้ำมา หรือแม้แต่ในวงการเกม เวลาเห็นเกมเดิม ๆ ทำแนวเดิม ๆ ออกมา หรือเห็นอะไรที่เราเห็นกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องเผชิญหน้ากับมันยกตัวอย่างเช่น การเห็น GTA V ที่ได้ไปต่อบน PS5 แล้ว แฟนเกมหลายคนก็คงอุทานแบบประโยคเดียวกันนี่แหละรวมประเด็นร้อนที่เคยเกิดขึ้นผ่านเกมตระกูล Call of Dutyถ้าหากพูดถึงเกมที่มักถูกตกเป็นกระแสถกเถียงบนสังคมอย่างรุนแรงไม่แพ้ซีรีส์ Grand Theft Auto ก็คงไม่มีทางหนีพ้น แฟรนไชส์เกม FPS ชื่อดังอย่าง Call of Duty ที่มักสร้างประเด็นร้อนในวงการเกม และเกิดกระแสการโต้เถียงบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็นประจำ แล้ว Call of Duty ได้ก่อวีรกรรม Controversy อะไรไว้บ้าง สามารถรับชมได้เลย

คิวบาเดือด เพราะ COD: BO มีฉากสังหารฟิเดล คาสโตร

ในเกม Call of Duty: Black Ops จะมีภารกิจหนึ่งที่ผู้เล่นเข้าไปบุกคฤหาสน์ เพื่อลอบสังหารฟิดาล คาสโตร ผู้นำเผด็จการของประเทศคิวบาในยุคสงครามเย็น ระหว่างเหตุการณ์ “การรุกรานอ่าวหมู” (Bay of Pigs Invasion) ซึ่ง Mason ตัวละครเอกของเกมสามารถสังหารคาสโตรได้สำเร็จ ก่อนจะถูกเฉลยในภายหลังว่าคาสโตรที่เขาสังหารนั้นเป็นตัวปลอม

เนื่องจากฟิดาล คาสโตร เป็นอดีตผู้นำเผด็จการในชีวิตจริงที่ประชาชนชาวคิวบาหลายคนต่างนับถือ ทำให้รัฐบาลของคิวบา ออกแถลงการณ์ประณามเกม Call of Duty: Black Ops อย่างรุนแรงว่าฉากการสังหารคาสโตร เปรียบเสมือนเป็นการจำลองเหตุการณ์สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถทำได้ในรอบกว่า 50 ปี นั่นคือการลอบสังหารคาสโตร และสหรัฐฯ พยายามใช้วิดีโอเกมเป็นเครื่องมือจำลองวิธีสังหารคาสโตรอีกด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลของคิวบาวิจารณ์ Call of Duty: Black Ops ว่าเป็นเกมที่นำเสนอให้ยกย่องการลอบสังหารแบบผิดกฎหมายโดยหน่วยทางการของสหรัฐฯ และกระตุ้นให้เด็กและเยาวชน มีพฤติกรรมต่อต้านสังคมด้วยเนื้อหาความรุนแรงในเกม

ชาวรัสเซียไม่พอใจเนื้อเรื่อง Modern Warfare ยัดเยียดให้รัสเซียเป็นตัวร้ายเกินไป

ก่อนที่จะถือกำเนิด Call of Duty: Modern Warfare (ฉบับ Reboot) ชาวรัสเซียบางกลุ่มมักจะแสดงความไม่พอใจต่อเกมตระกูล MW เป็นระยะ ๆ เนื่องจากตัวเกมชอบใช้รัสเซียเป็นฝ่ายร้ายเสมอ แต่หลังจากเกมดังกล่าวออกวางจำหน่ายไปแล้วทั่วโลก เกม Modern Warfare ได้ถูกวิจารณ์อย่างหนักโดยเกมเมอร์ชาวรัสเซีย เพราะตัวเนื้อเรื่องยัดเยียดให้รัสเซียเป็นตัวร้ายมากเกินไป

เกมเมอร์ชาวรัสเซียหลายคนวิจารณ์ว่าเนื้อเรื่องหลัก Call of Duty: Modern Warfare ว่ายัดเยียดบทบาทให้ฝ่ายรัสเซียเป็นผู้ร้ายสุดขั้ว โดยทหารรัสเซียในเกม มีการก่ออาชญากรรมสงครามรูปแบบต่าง ๆ มากมาย เช่น สังหารผู้บริสุทธิ์, ASIAX ใช้อาวุธเคมี และวิธีการอื่น ๆ ที่ทำภาพลักษณ์ของประเทศรัสเซียดูไม่ดีซ้ำร้าย ก็มีเกมเมอร์พบว่าด่าน Highway of Death มีการบิดเบือนประวัติศาสตร์ว่าเหตุการณ์โศกนาฏกรรมดังกล่าวนั้นเป็นฝีมือของฝ่ายทหารรัสเซีย (ซึ่งในโลกความเป็นจริง เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฝีมือของฝ่ายสหรัฐฯ) ส่งผลลัพธ์ทำให้เกมเมอร์ชาวรัสเซียหลายคน รวมตัวกันเขียนรีวิวบอมบ์เกมดังกล่าวผ่านเว็บไซต์ Metacritic เพื่อแสดงความไม่พอใจที่ตัวเกมนำเสนอฝ่ายรัสเซียเป็นคนโหดร้ายจนเกินความเป็นจริง แม้ทีมงาน Infinity Ward จะแถลงการณ์ออกมาแล้วว่าเนื้อเรื่องของเกมจะเป็น “ฟิกชัน” ก็ตาม Call of Duty กลายเป็นเกม FPS Sci-fi (อีกแล้ว) ในภาค Infinite Warfare

หลังจากการวางจำหน่ายของเกม Call of Duty: Advanced Warfare และ Black Ops III ซึ่งทั้งสองภาคเป็นเกม FPS ในธีมสงคราม Sci-fi สวมชุด Exo Suit ไล่กระโดดยิงกันยับ ทำให้เกมเมอร์หลายคนเริ่มเอือมกับ Call of Duty ฉบับล้ำอนาคต และอยากเห็นเกม COD กลับคืนสู่สงครามในปัจจุบัน หรือสงครามย้อนยุคอีกครั้ง

แน่นอนว่าหลังจากการเปิดตัวเกม Call of Duty: Infinite Warfare เป็นวันแรก พร้อมนำเสนอว่าเป็นเกม FPS ในธีม Sci-fi ที่แฟน ๆ หลายคนไม่ต้องการ ทำให้เกมเมอร์หลายคนต่างแสดงความไม่พอใจต่อเกมภาคดังกล่าวด้วยการกดถล่ม Dislike ในคลิป Official Call of Duty®: Infinite Warfare Reveal Trailer จนขึ้นแท่นเป็นหนึ่งใน Trailer วิดีโอเกมที่มียอด Dislike สูงสุด และส่งผลลัพธ์ทำให้ยอดขายเกมค่อนข้างเงียบเหงา แม้เกมดังกล่าวจะมีกระแสรีวิวว่าเป็นเกมดีก็ตาม

Black Ops 4 ไม่มีเนื้อเรื่อง

โหมดเนื้อเรื่องเป็นฟีเจอร์หลักที่มีอยู่ในเกม Call of Duty มาแล้วหลายภาค จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่ Call of Duty: Black Ops 4 จะมีกระแสต่อต้านจากแฟนเกม COD หลายคน หลังจากทีมงานประกาศว่าเกมดังกล่าวจะเป็นเกม Multiplayer Based ที่ไม่มีโหมดเนื้อเรื่อง และจะขายในราคาเต็มที่ 60 เหรียญฯ

ถึงอย่างนั้น แม้ Call of Duty: Black Ops 4 จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าเกมเมอร์ว่าตัวเกมเน้นขาย Microtransactions มากจนเกินไป และไม่มีโหมดเนื้อเรื่อง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกม Call of Duty มาหลายภาค แต่เกมดังกล่าวก็ยังคงมีกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมด้วยระบบ Multiplayer ที่แตกต่างจากเกมภาคก่อนอย่างเห็นได้ชัด รวมถึง Black Out หรือโหมด Battle Royale ของ BO4 มีความบาลานซ์ และเล่นได้สนุกสนานอีกด้วย

No Russian

No Russian เป็นภารกิจในเกม Call of Duty: Modern Warfare 2 ที่ผู้เล่นรับบทเป็นสายลับ CIA ได้เข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายนำโดย Vladimir Makarov แล้วร่วมก่อเหตุการณ์กราดยิงในสนามบิน Zakhaev International Airport ตามคำสั่งของนายพล Shepherd เพื่อสร้างความเชื่อใจและใกล้ชิด Makarov มากยิ่งขึ้นNo Russian นอกจากจะเป็นภารกิจที่มีชื่อเสียงที่สุดใน Call of Duty แล้ว ยังเป็นภารกิจที่เกิดกระแสถกเถียงไปทั่วโลกอีกด้วย ภารกิจ No Russian ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในประเทศสหรัฐฯ จนเป็นข่าวนำเสนอผ่านโทรทัศน์มากมาย โดยกล่าวหาว่าเกมดังกล่าวนำเสนอความรุนแรงผ่านโลกวิดีโอเกมได้ “รุนแรงสมจริงเกินไป” รวมถึงประเทศรัสเซีย (ซึ่งไม่พอใจกับการที่สื่อบันเทิงสหรัฐฯ ชอบใช้รัสเซียเป็นตัวร้ายอยู่แล้ว) ก็แสดงความไม่ปลื้มต่อเกมดังกล่าวเช่นกัน

จนในที่สุด ทีมงานก็ยอมปรับเปลี่ยนให้ภารกิจ No Russian สามารถ Skip ข้ามได้ พร้อมใส่ข้อความเตือนว่าอาจมีฉากที่ทำให้เกมเมอร์รู้สึกไม่สบายใจ และสำหรับเกมโซนรัสเซียจะไม่มีภารกิจ No Russian ให้เล่น หลังจากก่อนหน้านี้ ตัวเกมถูกแบนห้ามวางจำหน่ายเนื่องจากมีภารกิจดังกล่าว